Sensitivity Analysis ของการคำนวณผลประโยชน์ตาม TAS19 ดูยังไง!?
- actuarialbiz actuarialbiz
.jpg/v1/fill/w_320,h_320/file.jpg)
- 17 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 พ.ย.

บริษัทที่ไม่เคยคำนวณผลประโยชน์พนักงานโดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่มีการเปลี่ยนมาตรฐานเป็น TFRS for PAEs เพื่อคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19 อาจจะสงสัยเรื่องการเปิดหมายประกอบงบการเงินในหัวข้อ “Sensitivity Analysis” หรือ “การวิเคราะห์ความอ่อนไหว” ที่มีอยู่ในเล่มรายงาน วันนี้เราจะมาอธิบายแบบฉบับลัดให้เข้าใจง่ายๆ กัน
การวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis)
เป็น การวิเคราะห์ว่าหากการตั้งสมมติฐานต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลักนั้น มีผลต่อมูลค่าภาระผูกพัน ต้นทุนบริการ และดอกเบี้ยสุทธิ ผู้สอบบัญชีจะใช้ข้อมูลส่วนนี้ในการเปิดหมายเหตุประกอบงบ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์พนักงาน (TAS19) ในส่วนของบริษัทสามารถใช้พิจารณาตัวเลขคร่าวๆ ได้หากต้องการให้นักคณิตศาสตร์ปรับสมมติฐาน ยกตัวอย่างการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของอัตราการขึ้นเงินเดือน
การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของอัตราการขึ้นเงินเดือน
ปัจจัยความอ่อนไหว ของสมมติฐาน | การเปลี่ยนแปลงของตัวแปร | ภาระผูกพันตามโครงการ ผลประโยชน์ ณ DD/MM/YY (บาท) |
3.00% | ลง 2 ขั้น | 1,051,342.18 |
4.00% | ลง 1 ขั้น | 1,250,212.27 |
5.00% | สมมติฐานหลัก | 1,491,686.91 |
6.00% | ขึ้น 1 ขั้น | 1,785,077.96 |
7.00% | ขึ้น 2 ขั้น | 2,141,699.16 |
จากรายงานจะเห็นว่าสมมติฐานหลักที่นักคณิตศาสตร์ประกันภัยนำเสนอในเล่มรายงานคำนวณผลประโยชน์พนักงาน คือ อัตราการขึ้นเงินเดือนที่ 5% ซึ่งเมื่อคำนวณแล้ว พบว่าภาระผูกพันตามโครงการผลประโยชน์ ณ สิ้นรอบประมาณการมีมูลค่า 1,491,686.91 บาท ดังแสดงในตารางด้านล่าง

จากสมมติฐานหลักดังกล่าวที่ 5% ซึ่งบริษัทอาจจะมีนโยบายการขึ้นเงินเดือนระยะยาวแค่ 4% ก็สามารถดูที่การเปลี่ยนแปลงของตัวแปรลดลง 1 ขั้นจากสมมติฐานหลัก ซึ่งถ้าหากปรับสมมติฐานอัตราการขึ้นเงินเดือนเป็น 4% ภาระผูกพันตามโครงการผลประโยชน์ ณ สิ้นรอบประมาณการจะเปลี่ยนไปเป็น 1,250,212.27 บาท หรือก็คือลดลงจากสมมติฐานหลัก 241,474.64 บาท

ซึ่งการวิเคราะห์ความอ่อนไหวที่มักใช้เปิดในหมายเหตุประกอบงบจะมี 4 สมมติฐานหลัก
ได้แก่ 1.อัตราคิดลด 2. อัตราการขึ้นเงินเดือน 3.อัตราการหมุนเวียนพนักงาน และ 4.อัตรามรณะ
อัตราคิดลด (Discount Rate)
เป็นสมมติฐานที่ใช้คิดกลับมาว่าควรตั้งเงินสำรองให้พนักงานเท่าไรในวันนี้ เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้พนักงาน ณ วันเกษียณอายุ ซึ่งโดยปกติสมมติฐานอัตราคิดลดจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลัก 0.25% - 1.00% สำหรับเล่มรายงานการคำนวณผลประโยชน์พนักงานของ ABS อัตราคิดลดจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลักขั้นละ 0.50%
อัตราการขึ้นเงินเดือน (Salary Increment Rate)
เป็นสมมติฐานที่ใช้คิดไปในอนาคตว่าพนักงานแต่ละคนเมื่อครบอายุเกษียณแล้ว ค่าจ้างสุดท้ายจะเป็นเท่าใด โดยปกติสมมติฐานอัตราการขึ้นเงินเดือนจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลัก 0.50% - 1.00% สำหรับเล่มรายงานการคำนวณผลประโยชน์พนักงานของ ABS อัตราการขึ้นเงินเดือน จะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลักขั้นละ 1.00%
อัตราหมุนเวียนพนักงาน (Turnover Rate)
เป็นสมมติฐานที่ใช้หาความน่าจะเป็นที่พนักงานจะอยู่ทำงานกับบริษัทไปจนถึงอายุเกษียณโดยไม่ลาออกก่อน โดยปกติสมมติฐานอัตราหมุนเวียนพนักงานจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลัก 10.00% - 20.00% สำหรับเล่มรายงานการคำนวณผลประโยชน์พนักงานของ ABS อัตราหมุนเวียนพนักงาน จะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลักขั้นละ 20.00%
อัตรามรณะ (Mortality Rate)
เป็นสมมติฐานที่ใช้หาความน่าจะเป็นที่พนักงานจะอยู่ทำงานกับบริษัทไปจนถึงอายุเกษียณโดยไม่เสียชีวิตก่อน โดยปกติสมมติฐานอัตรามรณะจะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลัก 10.00% - 20.00% สำหรับเล่มรายงานการคำนวณผลประโยชน์พนักงานของ ABS อัตรามรณะ จะเพิ่มหรือลดจากสมมติฐานหลักขั้นละ 20.00%
หากคุณกำลังมองหาบริษัทที่ให้บริการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19 สามารถติดต่อ ABS ได้ทันที เราพร้อมให้คำแนะนำและความช่วยเหลือตั้งแต่ขั้นตอนการกรอกข้อมูล ไปจนถึงการชี้แจงข้อสงสัยหลังจากคำนวณแล้ว โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้มีประสบการณ์กว่า 25 ปี
เขียนและเรียบเรียงโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19 TAS19 IAS19




ความคิดเห็น